- เครดิต
- 62
- ความรู้
-
- เงิน $
-
- ความดี
-
|
การค้าขายเครื่องคำนวณพื้นที่ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สร้างสีสันให้ตลาดจีนมีมูลค่าถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ทิ้งให้แบรนด์อื่นต้องปรับแบรนด์ทีเด็ดใหม่ แม้ค่าตลาดจีนจะเป็นรองตลาดสหรัฐ ที่มีมูลค่าถึง 3.6 หมื่นล้านดอลลาร์ แต่จีนก็เป็นตลาดสำคัญเมื่อการค้าปลีกออนไลน์ได้เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการขายหลากหลายแบรนด์และราคาถูก อย่างเว็บไซต์จวี้เหม่ดอทคอม (Jumei.com) ลดค่าให้ถึง 15% มีให้เลือกถึง 45 แบรนด์ การลดราคามีผลโดยตรงต่อคู่ค้า เห็นได้จากยอดขายของเอวอนตกลงถึง 31% ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2555 จนบริษัทเอวอนพยายามศึกษาหาหนทางเพื่อกอบกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้น ส่วนเซฟอร่าต้องปิดร้านสาขาบางร้านในจีนหลังยอดขายตกฮวบ โดยมีขนบธรรมเนียมจะขายสินค้าแบบออนไลน์แทน ยอดขายในร้านค้าปลีกจีนลดลงจาก 83% ในปี 2553 เหลือ 74% ในปี 2554 ในขณะที่ยอดขายผ่านเว็บเพิ่มขึ้นจาก 4% ในปี 2553 เป็น 9% ในปี 2554 “ลีโอ เฉิน” ประธานบริหารเว็บไซต์จวี้เหม่ดอทคอม กล่าวว่า การขายตรงและขายผ่านเคาน์เตอร์เป็นเรื่องหมดสมัย การขายสินค้าผ่านเว็บไซต์เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เห็นได้จากเงินรายได้ของบริษัทจวี้เหม่ดอทคอม พุ่งพรวดจาก 3,000 ล้านบาท ในปี 2554 เป็น 12,000 ล้านบาท ในปี 2555 ที่ผ่านมา เอวอน รู้ซึ้งว่า การขายตรงเป็นเรื่องผิดพลาดในจีน จึงจะเปลี่ยนมาเป็นค้าปลีกและขายสินค้าผ่านเว็บไซต์แทน ในขณะที่เซฟอร่ามีแผนที่จะเพิ่มความร้อนแรงการประกอบการค้าผ่าน โดยจะเปิดเว็บไซต์ใหม่สำหรับลูกค้าชาวจีนในปีนี้ มีเนื้อหามุ่งให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าแก่ลูกค้า เพื่อหว่านล้อมให้ลูกค้าเพิ่มยอดการสั่งซื้อมากขึ้น อีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน มูลค่าการค้าปลีกผ่านเว็บไซต์เพิ่มขึ้นห้าเท่า มีมูลค่ารวมถึง 1 แสนล้านดอลลาร์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา และหมายตำหนิ นักช็อปออนไลน์ชาวจีนจะเพิ่มจำนวนขึ้นถึง 329 ล้านคนในปี 2558 มากกว่าในปี 2553 ถึงสองเท่า แต่ละคนมีโสหุ้ยในการซื้อของออนไลน์เฉลี่ยเกือบ 1,000 ดอลลาร์ต่อปี สินค้าหลากแบรนด์ล้วนให้ความสำคัญกับตลาดจีนมากกว่าตลาดประเทศอื่น ๆ อดีตประธานฝ่ายอีคอมเมิร์ซของบริษัทลอรีอัล “เจเรมี่ โกลด์แมน” กล่าวว่า ลอรีอัลได้เปิดเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหลากแบรนด์สำหรับแบรนด์ชั้นสูงของบริษัทอย่าง คีลส์ (Kiehl's) และชู อูเอมูระโดยเฉพาะ มาตั้งแต่ปี 2553 โดยให้เหตุผลว่า การซื้อขายออนไลน์ คือ วิถีธุรกิจที่ลูกค้านิยม หากบริษัทใดไม่ยอมรับวิธีการนี้ย่อมไม่มีทางประสบความสำเร็จ ในขณะที่เอวอนและเซฟอร่ายังไม่ยอมขายผลิตภัณฑ์ของตนผ่านเว็บไซต์ สำหรับเอสเต้ ลอเดอร์ จีนถือเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของบริษัท ยอดขายออนไลน์ของเอสเต้ ลอเดอร์ในจีนเพิ่มขึ้น 40% ในปีที่แล้ว โดยยอดขายสองในสามมาจากเมืองต่าง ๆ ที่เอสเต้ ลอเดอร์กระจายสินค้าไปไม่ถึง พร็อกเตอร์และแกมเบิ้ลหรือพีแอนด์จีเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ยอดขายผ่านอีคอมเมิร์ซผ่านเว็บไซต์จวี้เหม่ โตขึ้นรวดเร็วมาก ผู้บริหารระดับสูงของพีแอนด์จี ยอมรับว่า การขายสินค้าออนไลน์คือหัวใจสำคัญ และบริษัทมีหน้าที่สนองผู้บริโภคในทุกที่ที่พวกเขาต้องการซื้อ |
|